Support
4lagroup
ติดต่อ T.086-4624228
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

แนะการใช้ และ สรรพคุณ ส่วนประกอบ ของ Transfer Factor สำหรับ โรคติดเชื้อต่างๆ เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง มะเร็ง และอื่นๆ

วันที่: 29-09-2018

สรรพคุณ และ ส่วนประกอบ ของ Transfer Factor และคุณประโยชน์การใช้ 

(สามารถเสริมประสิททธิภาพ การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้สูงสุด)

 

 

 

 

 

นำ ทรานสเฟอร์แฟคเตอร์ มาผสมกับสารสกัด ของสมุนไพรที่มีประโยชน์

ในสูตร ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ 

 

 

1.ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor)

คือ  ตัวเสริมภูมิคุ้มกันที่ล้ำนำหน้าธรรมชาติ

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor) โมเลกุลขนาดเล็กที่ช่วยส่งข่าวสารทางภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นจากกรดอะมิโนที่ต่อเนื่องกันโดยส่งผ่านสัญญาณภูมิคุ้มกันระหว่างเซลล์ภูมิคุ้มกันด้วยด้วยกัน หรือเรียกสั้นๆว่า "ความทรงจำของภูมิคุ้มกันระดับโมเลกุล"

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor) ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ คือโปรตีนขนาดเล็กที่“ส่งผ่าน”ความสามารถในการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันจากผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแล้วไปยังผู้รับซึ่งไม่มีภูมิคุ้มกัน”(วารสาร Molecular Medicine ฉบับวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2000 (พ.ศ.2543)

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor) ไม่ใช่วิตามินไม่ใช่แร่ธาตุ ไม่ใช่ฮอร์โมนไม่ใช่สมุนไพรและไม่ใช่ยา(ไม่มีสิ่งแปลกปลอมไม่มีสิ่งที่มีพิษ)

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor) เป็นกุญแจสำคัญของสุขภาพ ในการสร้างความแข็งแกร่งในระบบป้องกันของร่างกาย โดยใช้ภูมิคุ้มกันของตัวเองตามธรรมชาติ

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor) มีน้ำหัวน้ำนมแรกคลอดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด 

 

 

 

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ เปรียบเหมือนครูของภูมิคุ้มกัน

 

ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ คือ สายโมเลกุลเปปไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอมิโน จำนวน 44 ตัว (โดยประมาณ) ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ทำหน้าที่ช่วยส่งข่าวสารทางภูมิคุ้มกัน โดยส่งผ่านสัญญาณภูมิคุ้มกันระหว่างเซลล์ภูมิคุ้มกันด้วย กล่าวคือ ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ทำหน้าที่ให้ความรู้ในการต้านทานเชื้อโรคและสิ่งแปกปลอมกับเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย

 

ลักษณะการทำงานของทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ อธิบายให้ง่าย คือ ความสามารถในการส่งผ่านภูมิคุ้มกันแบบวัคซีนเม็ด จากผู้ให้ที่มีภูมิคุ้มกันไปสู่ผู้รับที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน  (แบบ cell – mediated immunity)

 

เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ก็จะตอบสนองอย่างรวดเร็วในการโจมตีเชื้อโรคแปลกปลอมนั้น ตามขบวนการ 3R ดังนี้ 

1. ทำความรู้จัก Recognize คือ ทำความรู้จักกับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมนั้นก่อน ว่ามันคืออะไรกันแน่??  

2. ทำการโต้ตอบและทำลาย React (Respond) คือ การเตรียมการและจัดการโจมตีเชื้อโรคแปลกปลอมนั้นให้หมดไปจากร่างกาย 

3. จดจำเชื้อโรคและสารแปลกปลอมนั้น Remember คือ ระบบภูมิคุ้มกันจะจดจำรูปแบบเชื้อโรคหรือสารแอนติเจนของสิ่งก่อโรคนั้น เพื่อคราวต่อไป เมื่อมีการบุกรุกอีก ร่างกายจะทำการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วทันที

 

ลักษณะการทำงานของทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ อธิบายให้ง่าย คือ ความสามารถในการส่งผ่านภูมิคุ้มกันแบบวัคซีนเม็ด จากผู้ให้ที่มีภูมิคุ้มกันไปสู่ผู้รับที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน  (แบบ cell – mediated immunity)

 

กล่าวคือ ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ จะช่วยเร่งความเร็วของขั้นตอนการทำความรู้จัก และย่นระยะเวลาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้สั้นขึ้น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถกำจัดเชื้อโรคและสิ่งที่มาคุกคามได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยลง ตอบสนองได้เร็วสูงสุดภายใน 48-72 ชั่งโมงหลังจากได้รับทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์

 

 

 

ยกตัวอย่างเช่น

 

 

เมื่อร่างกายมีการติดเชื้อไวรัส จะส่งสัญญาณให้ระบบภูมิคุ้มกัน หลั่งสาร Cytokine ออกมากระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันตื่นตัว ซึ่งเซลล์แรกที่จะตอบโต้เชื้อไวรัสคือ NK Cells (Natural Killer Cells หรือ เซลล์เพชฌฆาต) ซึ่งในภาวะปกติ NK Cells จะเริ่มกำจัดเชื้อไวรัสจากอาการติดเชื้อประมาณ 3.5 วันและหลังจาก 3-5 วัน T-Cell และระบบแอนตี้บอดี้ จะเริ่มทำงานและกำจัดเชื้อไวรัสให้สิ้นซาก

 

 

แต่ถ้าร่างกายได้รับ ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ (Transfer Factor) NK Cells จะเริ่มกำจัดเชื้อไวรัสหลังจากมีการติดเชื้อแค่ 1.5 วัน ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้เร็วขึ้น ลดการเจ็บป่วยและฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้รับประทาน ทรานเฟอร์ แฟกเตอร์

 

 

 

 

 

2.คอร์ดิเซ็พส์ (cordyceps sinensis)

          Cordyceps เป็นเห็ดชนิดหนึ่ง พบบริเวณภูเขาทางตอนใต้ของจีน ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ และ ยาบำรุงกำลังมากว่า 3000 ปี บำรุงปอด ไต  เพิ่มการผลิตสเปิร์ม  และรักษาโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง หอบ หืด วัณโรค และโรคระบบทางเดินหายใจ (Steinkraus et al., 1994)  รับประทาน Cordyceps เป็นประจำจะช่วย ชะลอความแก่ และลดอาการอ่อนเพลีย  ขี้หนาว  มึนงง หูอื้อ  เสื่อมสมรรถภาพทาง เพศ และ ความจำเสื่อม (Cao & Wen, 1993;  Zhang et al., 1995)

          Cordyceps  มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน  ซึ่งมีหลายการทดลองที่ยืนยันฤทธิ์กระตุ้นภูมิ คุ้มกันและปรับสมดุลย์ภูมิคุ้มกันของ Cordycepps (Koh et al., 1994; Kuo et al., 2005; Ng et al., 2005) จากการ ทดลองทางคลินิกในคนไข้มะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด พบว่า Cordyceps สามารถฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้ได้ดี (Zhou & Lin 1995)

          Cordyceps มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และเนื้องอก (Chen et al., 1997; Kuo et al., 1994; Yoshida ,1989)  มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Li et al., 2001)  ลด Cholesterol และป้องกัน โรคหัวใจ (Chiou et al., 2000; Lou et al., 1986; Yamaguchi et al., 2000)

          ใน Cordyceps พบสารกลุ่ Polysaccharides มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด (Kiho et al.,1996), ลดไขมันในเส้นเลือด (Kiho et al., 1996), กระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Gong et al., 1990)กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันรังสี ต้านมะเร็ง (Zeng et al., 1985), ต้านมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Chen et al., 1997) นอกจากนี้ยังพบสารกลุ่ม Sterol (Ergosterol), Cordycepin (3-deoxyadenosine) และ Cordycepic acid


 

          ประโยชน์ทางยาของ Cordyceps  ใช้ในการรักษาโรคต่อไปนี้

  • โรคไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด   ลดคลอเรสเตอรอล  และ ไขมันในเส้นเลือด
  • โรคตับ และ โรคระบบทางเดินอาหาร
  •  กระตุ้นและปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันในผู้ที่ภูมิคุ้มกันผิดปรกติ ลดการอักเสบ ใช้เสริมในการรักษาเคมีบำบัด
  • บำรุง ร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลียโดยเฉพาะในผู้ที่เจ็บป่วยร่างกายอ่อนแอ
  • ชะลอ ความแก่  เป็นยาอายุวัฒนะ
  •  เสื่อมสมรรถภาพทางเพศทั้งหญิงและชาย)
  • โรค ระบบทางเดินหายใจ    โรคปอด  และ หลอดลมอักเสบ

อ้างอิง: Institute for Natural Products Research, Cordyceps Monograph

 

 


3.สารสกัดจากใบมะกอก (Olive ฟleaf Extract)

ใบมะกอกใช้ทั่วไปในการรักษาโรคหวัด  แก้เชื้อรา  ไวรัส  มีฤทธิ์ลดคลอเรสเตอรอล (LDL)  ลดความดันโลหิต  ลดน้ำตาลในเลือด

ใบมะกอกมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงถึง  400 % ของวิตามิน ซี และ 2 เท่าของชาเขียว ช่วยปกป้องร่างกายจากการถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระ  และใช้รักษามะเร็ง เช่นมะเร็งตับ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในใบมะกอกได้แก่ Oleuropein, hydroxytyrosol และสารกลุ่ม Polyphenol อีกหลายตัว

 

Oleuropein (สารโอลิวโรเปอีน) เป็นสารที่ช่วยส่งเสริมความสามารถในการต่อต้านแบคทีเรียและกระตุ้นระบบภูมิต้านทานโดยตรง
 

 

          เนื่องจากใบมะกอกมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต และลดน้ำตาลในเลือด จึงต้องระวังในผู้ที่ได้รับยาลดความดันโลหิต และยาลดน้ำตาลในเลือด อาจเสริมฤทธิ์ยาได้

อ้างอิง Olive Leaf, Wikipedia, the free encyclopedia

 

 

 

 

4.เห็ดไมตาเกะ (Maitake Mushroom)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Glifola  frondosa


            ริโฟแลนด์ (Grifolan) และ ดีแฟรกชั่น (D-fraction) เป็นโพลีแซคคาไลด์ (โมเลกุลที่ประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำตาลหลายๆ ตัวเชื่อมเข้าด้วยกัน) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายถูกพบใน เห็ตไมตาเกะ ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าสารนี้ช่วยสนับสนุนสุขภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากนั้นคุณประโยชน์อื่นๆ ของเห็ตไมตาเกะยังมีอีกมากมาย ทั้งในเรืองของการสนับสนุนสุขภาพด้านระบบย่อยอาหาร ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายและสนับสนุนการทำงานของระบบอินซูลินในร่าง กาย(เบาหวาน)อีกด้วย

 


 

 

5.เห็ดชิตาเกะ (Shitake Mushroom)


            ห็ตชิตาเกะถูกใช้เป็นยาจีนนานกว่า 6,000 ปี เป็นที่รับรู้มานานแล้วว่าคุณสมบัติของเห็ตชิตาเกะคือการช่วยส่งเสริมระบบ ภูมิคุ้มกัน เพราะประกอบด้วยสารสำคัญได้แก่ อีริตาเดนีน (Elitadenine) ซึ่งพบว่าเป็นสารที่ช่วยสนับสนุนให้มีระดับคลอเรสเตอรอลที่สมดุล นอกจากนั้นยังมี สารแอลเออโกไธโอนีน (L-ergothionine) ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากอีกชนิดหนึ่งทธิภาพสูงชนิดหนึ่ง

 

 

 

 

6.สังกะสี (Zinc)
            สังกะสีเป็นเกลือแร่จำเป็นที่พบได้ในเกือบทุกเซลล์ของร่างกาย สังกะสีมีความจำเป็นต่อชีวิตมาก เพราะสังกะสีมีหน้าที่ช่วยเหลือในกระบวนการทางชีวภาพของมนุษย์มากมาย และมีบทบาทที่สำคัญมากต่อเอนไซม์มากกว่า 300 ชนิดในร่างกาย สังกะสีจึงมีประโยชน์มาต่อการสร้างสุขภาพที่ดี นอกจากนั้นสังกะสียังช่วยสนั
บสนุนความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง การรักษาแผล ช่วยรักษาความสามารถในการรับกลิ่นและรส รวมถึงการช่วยดูแลสุขภาพผิว และสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย

 

 

 

 

7.เห็ดบลาซีอิ (Agaricus-Blazei Mushroom)


           จากการศึกษาวิจัยร่วมกับสถาบันวิจัยในประเทศญี่ปุ่น พบว่า ในเห็ตบลาซีอิมีสารที่เป็น High Polysaccharides ที่มีคุณสมบัติต่อต้านเซลล์มะเร็งและป้องกันมะเร็งเนื้อร้ายชนิด Ascite cancer และเมื่อนำสารสกัดจากเห็ตบลาซีอิมาทดลองใช้ร่วมกับยาในการรักษาโรคมะเร็งพบ ว่าทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงขึ้น 4.8-6.3 เท่า อีกทั้งยังช่วยมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วต่อผลการรักษาแบบเคมีบำบัด นอกจากนั้นยังช่วยกระัตุ้นภูมิต้านทานในเซลล์ ทำให้ระดับของ Thy1 และ Thy2 positive cell และ เซลล์ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมมีระดับที่ดีและสูงขึ้น ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้โดยไม่ก่อผลข้างเคียง ช่วยเสริมสร้างการทำงานของตับ ส่งผลให้เกิดการควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีและมีไคลินที่มีคุณสมบัติป้องกัน ภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เส้นเลือดตีบตัน รวมทั้งยังช่วยซ่อมแซมและรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดงอีกด้วย

 

 

 

8.สารสกัดจากถั่วเหลือง (Soy Bean Extract)


           สารสกัดจากถั่วเหลืองอุดมไปด้วย เบต้าซิโตสเตอรอล (Bata Sitosterol) เป็นสารพฤษเคมีที่พบว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมหาศาล รวมทั้งยังช่วยในการสนับสนุนสุขภาพกระดูก การทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต รวมถึงการปรับสมดุลระดับคลอเรสเตอรอล นอกจากนั้นเบต้าซิโตสเตอรอลหรือโปรตีนจากถั่วเหลือง ยังให้กรดอะมิโนที่จำเป็นหลายชนิดในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับร่างกาย

 

 

 

9.เบต้ากลูแคน

 

 

10.IP6

 

 

 

11.สารสกัดจากว่านหางจรเข้

 

 

  (หมายเหตุ:การใช้ทรานสเฟอร์ แฟคเตอร์ ไม่ใช่ยารักษาและผลการใช้ ของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน)

 

 

คลิ๊กดูข้อมูล และ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ ได้ที่นี่

 

 

สอบถาม รายละเอียด เกี่ยวกับ Transfer Factor ประโยชน์และวิธีการใช้  ทรานสเฟอร์แฟกเตอร์ 
สำหรับเสริมสร้าง ระบบภูมิคุ้มกัน และเสริมสุขภาพ หรือแก้ปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันได้ที่
Tel.086-4624228

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

คลิ๊ก Add Friends  เพื่อเพิมเพื่อนไลน์